บาคาร่า 6 แต้ม คืออะไร เทคนิคบาคาร่า ที่ควรหาคำตอบ
เกมไพ่บาคาร่าถือเป็นเกมไพ่ยอดนิยม ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากที่สุดในโลกคาสิโนออนไลน์ ซึ่งเกมไพ่พนันชนิดนี้แม้จะเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่าย สนุกสนาน แต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บาคาร่า 6 แต้ม ที่หลาย ๆ คนสงสัยว่าคืออะไร และทำไมถึงเรียกแบบนี้ ซึ่ง เทคนิคบาคาร่า นี้จะมีประโยชน์อย่างไร เราจะพาไปไขคำตอบกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้ถ้าไม่สนใจศึกษาเรียนรู้ คุณจะไม่มีวันเป็นมืออาชีพได้แน่นอน
รู้จักพื้นฐาน บาคาร่า 6 แต้ม
สำหรับเกมไพ่บาคาร่านั้นถือเป็นเกมเดิมพันที่มีความเสี่ยงต่ำมาก นั้นก็คือมีโอกาสแพ้ 50 % ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับการพนันชนิดอื่น ๆ ซึ่งนักพนันจะต้องแทงเดิมพันว่าจะเลือกฝั่ง Banker หรือ Player โดยจะมีดีลเลอร์เป็นคนดำเนินการแจกไพ่และเปิดไพ่ให้ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ใบ โดยนักพนันมีหน้าทีอย่างเดียวคือแทงเดิมพันลงไปว่าฝั่งไหนจะแต้มเหนือกว่ากัน ซึ่งแม้ว่านักพนันไม่ใช้เป็นคนเล่นเองแต่ก็จำเป็นที่จะต้องรู้จัก เทคนิคบาคาร่า โดยเฉพาะเรื่องของกฎกติกาและการนับแต้ม
บาคาร่า 6 แต้ม กฎ กติกา และ เทคนิคบาคาร่า
สำหรับหลักการ เทคนิคบาคาร่า พื้นฐานของการนับแต้มบาคาร่า คือเมื่อดีลเลอร์ทำการแจกไพ่แล้ว จะต้องดูแต้มไพ่ว่าฝั่งใดได้แต้ม 0 – 5 ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้เพิ่มฝั่งละ 1 ใบ แต่ถ้าแต้มระหว่าง 6 – 7 แต้ม จะไม่มีการแจกไพ่เพิ่ม โดยถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ได้ไพ่สองใบโดยมีแต้ม 8 – 9 แต้ม จะเรียกว่า ไพ่ป๊อก และจะชนะแต้มที่อยู่ระหว่าง 0 – 7 ทันที
โดยไพ่บาคาร่า จะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบมีคอมมิสชั่น และไม่มีคอมมิสชั่น ซึ่งทั้งสองแบบต่างกันเล็กน้อย คือ
แบบคอมมิสชั่น จะมีการหักเงิน 5% หากคุณแทงฝั่ง Banker และแทงถูก โดยสมมุติถ้าแทง 100 บาท จะจ่ายรางวัลแค่ 95 บาท รวมต้นทุนและกำไรก็จะได้ 195 บาท แต่ถ้าแทงที่ฝั่ง Player จะไม่โดนหังใด ๆ
แบบไม่มีคอมมิสชั่น คือ ถ้าแทงฝั่ง Player หรือ Banker ก็ตาม จะมีอัตราจ่ายรางวัลอยู่ที่ 1 ต่อ 1 แต่ถ้า Banker ชนะด้วย บาคาร่า 6 แต้ม จะมีการจ่ายเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เช่น แทงเดิมพันที่ Banker 100 บาท ถ้า Banker ชนะด้วย บาคาร่า 6 แต้ม ก็จะได้เงินรางวัล 50 โดยทุนบวกกำไรจะได้เป็น 150 บาทนั้นเอง
ดังนั้นสรุปแล้ว บาคาร่า 6 แต้ม คือ เทคนิคบาคาร่า พื้นฐานที่อยู่ในการเล่นบาคาร่าแบบ ไม่มีคอมมิสชั่น
เทคนิคบาคาร่า การนับแต้มไพ่
สำหรับการนับแต้มไพ่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการศึกษาเรียนรู้ เพราะจะทำให้คุณเข้าใจรูปแบบของเกมเดิมพันบาคาร่ามากยิ่งขึ้น โดยการเล่นบาคาร่าจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
- เลือกว่าจะแทงเดิมพันในข้างไหน ซึ่งมีการเลือกอยู่ 5 แบบ แต่ที่นิยมกันจะแทงแค่ 2 แบบ คือ Banker หรือ Player
- ถ้าหากไพ่ 2 ไปแรกที่ได้ไป มีแต้ม 0-5 จะต้องทำการเรียกไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ แต่ถ้ามีแต้มที่ 6-7 จะไม่มีสิทธิ์เรียกไพ่เพิ่ม
- ถ้าหากไพ่ 2 ใบแรก มีแต้มที่ 8-9 จะเรียกว่าได้ไพ่ป๊อก ซึ่งหมายความว่าจะชนะไพ่ 2 ใบที่มีแต้มระหว่าง 0-7
การนับแต้มจากหน้าไพ่ใบต่าง ๆ
- A :จะมีแต้ม 1 แต้ม
- 2 :จะมีแต้ม 2 แต้ม
- 3 :จะมีแต้ม 3 แต้ม
- 4 :จะมีแต้ม 4 แต้ม
- 5 :จะมีแต้ม 5 แต้ม
- 6 :จะมีแต้ม 6 แต้ม
- 7 :จะมีแต้ม 7 แต้ม
- 8 :จะมีแต้ม 8 แต้ม
- 9 :จะมีแต้ม 9 แต้ม
- 10 – J – Q – K :จะมีแต้ม 0 แต้ม
การวางเดิมพันและอัตราจ่ายรางวัล ประเภทมีค่าคอมมิสชั่น
- เดิมพัน Banker อัตราจ่าย 1 : 0.95
- เดิมพัน Player อัตราจ่าย 1 : 1
- เดิมพัน Banker ได้ไพ่แต้มเดียวกันสองใบ อัตราจ่าย 1 : 11
- เดิมพัน Player ได้ไพ่แต้มเดียวกันสองใบ อัตราจ่าย 1 : 11
- เดิมพัน เสมอ (คะแนนของทั้งสองฝั่งเสมอกัน) อัตราจ่าย 1 : 8
การวางเดิมพันและอัตราจ่ายรางวัล ประเภทไม่มีค่าคอมมิสชั่น
- เดิมพัน Banker อัตราจ่าย 1 : 1 ( แต่ถ้า Banker ชนะด้วยแต้ม 6 แต้ม จะจ่ายแค่ครึ่งเดียว หรือ 1 : 0.5 )
- เดิมพัน Player อัตราจ่าย 1 : 1
- เดิมพัน Banker ได้ไพ่แต้มเดียวกันสองใบ อัตราจ่าย 1 : 11
- เดิมพัน Player ได้ไพ่แต้มเดียวกันสองใบ อัตราจ่าย 1 : 11
- เดิมพัน เสมอ (คะแนนของทั้งสองฝั่งเสมอกัน) อัตราจ่าย 1 : 8
และทั้งหมดนี้ก็คือ บาคาร่า 6 แต้ม คืออะไร เทคนิคบาคาร่า ที่ควรหาคำตอบ และรูปแบบการอ่านไพ่ การวัดคะแนนต่าง ๆ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นความรู้ที่นักพนันจะต้องรู้เอาไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเล่นเดิมพัน ทำให้การเล่นเดิมพันของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเท่าทันกฎกติกาอย่างมืออาชีพ